ผมได้ยินผู้ใหญ่เขาพูดตลกกัน
คนหนึ่งเป็นลูกค้าป้าแก่
อีกคนเป็นคนขายลุงหง่อม
ป้าแก่บอก ขอบิลด้วยนะคะ
ลุงตอบ เอาบินใกล้ หรือบินไกลล่ะครับ
ป้าแก่อึ้ง โดนไป 1 ดอก
จำต้องตอบออกมากระท่อนกระแท่นว่า
ไม่เอาดีกว่า กลัว(บิน)ตกกลางทาง.. เจ็บ..
ลุงแก่โดนไป 1 ดอก
ผมฟังแล้วก็ โอยเอาเข้าไป ไม่ได้ขำเลยซักมุข
มันฟังดูเผินๆ เหมือนไม่มีอะไร
หน้าตายิ้มแย้มแต่ในใจคงเชือดเฉือนกันอยู่
คำพูดตลกๆ ที่สองฝ่ายคิดว่าเฉียบสุดแล้วนั้น
ถูกเอาออกมาใช้เพื่อเฉือนกัน พูดหักหน้ากัน
อยากให้อีกฝ่ายอึ้ง และตอบไม่ถูก
แล้วก็เป็นฝ่ายชนะ.. สะใจ..
.. ดูแล้วมันก็แปลกดี
ทำไมมุขตลกมันถูกใช้ในทางไม่โสภาไปแล้วหนอ
เอาอารมณ์ขันมาฆ่ากันเสียแล้ว
ผมมีเคล็ดลับประจำตัวที่ไม่เคยเล่าให้ใครฟังมาก่อน
เกี่ยวกับการพูดตลก หรือที่คนเรียกกันว่าเล่นมุข เนี่ยแหละครับ
ผมรวบรวมจากข้อสังเกตที่ได้จากการกระทำ และปฏิกิริยาคนรอบข้าง
ทำไมบางคนพูดอะไรแล้วใครๆ ก็พากันหนี ไม่อยากเข้าใกล้
ทำไมบางคนแค่อ้าปาก เพื่อนก็บอกมึงเงียบปากไปเลย
แต่กับบางคน หลายคนอยากคุยด้วย คุยแล้วสบายใจดี
คนเหล่านั้นทุกคนมีจุดหมายเดียวกันคือ อยากให้คนฟังหัวเราะ
แต่ทำไมปฏิกิริยาต่างกัน
คุณอาจจะเดาได้
กฎข้อแรกเกี่ยวกับการพูดตลก ที่ผมจะบอกคือ
ไม่ควรพูดตลกโดยการเหยียบผู้ฟังเด็ดขาด
บางคนพูดเสียดสีคนฟัง หรือพูดไม่เคารพคนฟัง แต่ไม่รู้ตัว
โดยเฉพาะถ้าเด็กพูดกับคนอาวุโสกว่าแล้ว จะยิ่งเกิดอาการเคืองอย่างชัดๆ
.. ยกตัวอย่าง ..
- เฮ้ย ดีจัง สั่งขาหมูด้วย ชอบกินว่ะ
- งั้นพี่เอากระดูกไปแทะไป ชิ่วๆ.. 555
หรือ
- ที่บ้านกูไม่ชอบกินเนื้อสัตว์กันว่ะ
- ใช่สิ ก็บ้านมึงมันมนุษย์ต่างดาวนี่.. 555
ลองคิดดูว่าถ้าคุณโดนเล่นเข้ากับตัวเอง คุณจะขำออกเหรอ
คนฟังบางคนที่คุมอารมณ์อยู่ อาจจะแกล้งหัวเราะ
แล้วคนพูดมันก็ได้ใจ ไม่มีใครเตือนมัน..
สุดท้ายจะกลายเป็นคนน่ารำคาญ 1 คนบนโลกใบนี้
ถ้าคนฟังเหลืออด ก็อาจจะบอกว่า น้อยๆ หน่อย ไม่ใช่เพื่อนเล่นมึงนะโว่ย..
ทีนี้คุณอาจจะ อ้าวแล้วห้ามเล่นเรื่องไม่สุภาพกับคนฟัง
แล้วจะไปเล่นกับใครที่ไหนวะ
ผมบอกเลย มุขตลกที่คนฟังส่วนมากชอบ คือเล่นตัวเองมันเนี่ยแหละ
เวลาผมพูดตลก บางทีถ้ามีจังหวะผมจะเลือกเหยียบตัวเอง
การเล่นแบบนี้ ขำ และปลอดภัยต่อการโดนเคืองด้วย
... ยกตัวอย่าง ..
- เฮ้ย ดีจัง สั่งขาหมูด้วย ชอบกินว่ะ
- อ๊ะๆ งั้นผมจองกระดูก ตั้งแต่เช้ายังไม่ได้แทะเลยเนี่ย คันปาก.. 555
หรือ
- ที่บ้านกูไม่ชอบกินเนื้อสัตว์ว่ะ
- อ่าวเหรอ .. โชคดีนะเนี่ย บ้านกูชอบแต่ดันไม่มีตังค์ซื้อว่ะ.. 555
กฎข้อสอง เวลาใครพูดจาจริงจัง ซีเรียสอยู่ ก็อย่าไปสอดทำตลก
หรือถ้าใครทำงานอยู่ อย่าไปพยายามทำตลกรบกวนสมาธิเขา
แบบนี้จะโดนถีบเอาง่ายๆ
เช่น
- เอ้า จะรออะไรอยู่ครับ รีบไปเลยเดี๋ยวไม่ ... ... ...
- (แทรก) ไปเลยแล้วจะถึงเหรอวะ... 555
กฎข้อสาม ถ้าใครพูดหวังให้ตลกโดยการอำเรา ก็ให้สนุกไปด้วย
แกล้งงง ไม่ต้องกลัวเสียฟอร์ม..
อย่าไปต่อปากต่อคำ.. สุดท้ายอาจจะมีต่อยกันได้
เช่น
- น้องครับ คิดยังไงถึงเกิดมาดำเนี่ย
... อันนี้ผิดกฎข้อ 1 แล้ว อย่าไปเหยียบคนฟัง
เอาใหม่ๆ
- น้องครับ คิดยังไงถึงหน้าเหมือนพี่บีม d2b เนี่ย
- ก็คิดไม่เหมือนพี่อ่ะ
... อันนี้ยอกย้อน ต่อปากต่อคำ อาจมีต่อยกันได้ ลองใหม่
- น้องครับ คิดยังไงถึงหน้าเหมือนพี่บีม d2b เนี่ย
- ใครว่าผมเหมือนบีม ..ผมวิลลี่ตะหาก
... แบบนี้ซะก็ขำทั้งสองฝ่ายแล้ว สบายใจด้วย
กฎข้อที่สี่ ปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์
1. ถ้ารู้สึกว่าคนฟังเริ่มเบื่อ หรือไม่ขำมุขแบบที่เราพูด
จงหยุดทันที อย่าไปพยายามพูดต่อให้ขำให้ได้.. อาจจะน่าหงุดหงิด
2. แต่ถ้าคนฟังเกิดขำกลิ้งๆ ก็อย่าได้ใจขนาดเล่นไม่เลิก
เพราะมุขท้ายๆ อาจจะฝืดจนคุณหมดความมั่นใจในตัวเองไปเลย
... เรียกว่า อย่าโลภครับ ขำแค่พอควรแล้วรีบเลิก เก็บไว้ต่อวันหลัง ..
3. ถ้าคนฟังไม่ค่อยสนิทกัน อย่าเล่นมากไป..
เรายังไม่รู้ท่าทีคนฟังว่าขำมากขำน้อยขนาดไหน
พูดมากเดี๋ยวจะโดนหมั่นไส้เอา..
4. เวลาพูดตลก จงพูดออกไปตรงๆ ธรรมดาๆ เหมือนเล่าเรื่องให้คนฟัง ...
..อย่าพูดแบบว่าคาดหวังให้คนฟังขำ เพราะคนฟังจะอึดอัดถ้าเกิดมันไม่ขำจริง ..
.. และอย่าพูดไปหัวเราะไปเพราะดันขำเอง คนฟังจะฟังไม่รู้เรื่อง..
5. เป็นระเบียบของคนฟังที่ดี คือถ้าคนพูดตั้งใจให้เราหัวเราะ อยากให้เราสนุก
เราก็ควรจะพยายามคิดให้ขำตามไปด้วย ยิ้มสักนิดก็ยังดีหากว่ามันฝืดจริงๆ ...
ไม่ควรเยาะเย้ยคนพูด ว่านี่หรือมุขมึง... ทำไมฝืดจัง.. โอ๊ย..แป้กๆๆ ...
... การบอกว่ามุขมึงไม่ตลกเลยนะ มันก็เหมือนการกระโดดถีบหน้ากัน ...
คุณจะเห็นว่ามันเกี่ยวกับทัศนคติมากกว่า
พูดตลกยังไงให้น่ารัก พูดยังไงไม่ให้คนเกลียด
ที่จริงมันไม่ยากนะ แต่ผมไม่รู้จะเอามาเขียนยังไงให้คุณเข้าใจหัวใจของมัน
เท่าที่เขียนมาถึงตรงนี้น่าจะช่วยให้คุณได้ไอเดียบ้างแหละ..
นวย