0542
ฝอยวันละเรื่อง
แสดงทั้งหมด

อัลบั้มโปรด 2552ตอบ: 0, อ่าน: 3464

2552

(เลือกและเขียนค้างไว้ตั้งแต่ต้นปี เพิ่งได้ฤกษ์เขียนต่อจนเสร็จซะทีคร้าบ..)
ปีที่แล้วเป็นอัลบั้มในทางร็อกๆ หมดเลย แต่ปีนี้กลับมาเป็นป๊อปอีกแล้วครับ


ศิลปิน : ตรัย ภูมิรัตน
อัลบั้ม : Love So Fine
สังกัด : Sony Music / Love is


ครองแชมป์อัลบั้มที่ฟังบ่อยที่สุดของปีอย่างง่ายดาย แม้จะเพิ่งซื้อในช่วง 2 เดือนสุดท้าย
อัลบั้มนี้เป็นคอลเลคชั่นที่ดีมากๆ ชุดหนึ่ง ซึ่งคนที่ชอบฟังพี่บอย ตรัย สมควรต้องมีครับ
เพราะรวมเพลงพิเศษจากอัลบั้มนู่นนี่ต่างๆ ไว้เยอะมาก ตั้งแต่ยุคเบเกอรี่มาถึงยุคเลิฟอีส
(ซึ่งทุกเพลงพี่แกทั้งแต่งเอง ร้องเอง และโปรดิวซ์เอง มาโดยตลอด)
และแม้จะเป็นอัลบั้มรวมเพลงจากต่างกาลเทศะ แต่ก็เรียงร้อยกันได้อย่างกลมกลืนทีเดียว..

เปิดตัวด้วยเพลงใหม่ล่าสุดสำหรับอัลบั้มนี้ Always (คนละอันกับ Rhythm&Boyd นะ)
ฟังแล้วก็อินทันทีครับ เนื้อหาโดยย่อจะเหมือนกับเพลง 'รักของเรายังใหม่ ยังไม่เก่าเลย..'
แต่พี่บอยแต่งไว้น่ากรี๊ดว่า "เธอเท่านั้นที่ยังทำฉันหวั่นไหว ตกหลุมรักได้เสมอ" ..ว้าว!

ตามมาด้วยบทเพลง สุข-เศร้า-เหงา-ซึ้ง คละเคล้ากันเต็มอิ่ม จนครบ 14 เพลง
ทั้งเพลงจากอัลบั้ม.. คนใจน้อย, เมื่อไม่มีเธอ, เพลงเศร้า, ไม่มีเหตุผล, พิจิกา, ส่งแค่นี้
เพลงประกอบภาพยนตร์/หนังสือ.. ผูกพัน, จะได้พบกันอีกไหม, เพื่อนของเราชื่อความเหงา
และเพลงจากอัลบั้มรวมต่างๆ.. ต้นรัก, ลังเล, จะบอกกับเธอว่ารักเธอ, บอกฉัน

ขอบอกว่าแทบทุกเพลงโดนใจผมมาแล้วจังๆ ครับ แม้จะไม่เคยเจอประสบการณ์ตรงก็ตาม
ฉะนั้นถ้าใครกำลังหงอยเหงา เศร้าใจ เจอบางเพลงที่เข้ากับชีวิตพอดีอาจมีซึมได้ครับ!

และถ้าลองนึกถึงเพลงอื่นๆ ที่ตกหล่นไม่ได้นำมารวมในอัลบั้มนี้
เช่น เขาไม่เกี่ยว, สักวัน, พื้นที่เล็กๆ, กล่อม, ทะเล (เพลงของ ชรัส เฟื่องอารมย์)
ก็จะเห็นได้ว่านี่เป็นการคัดเลือกที่เน้นเพลงรักๆ หรือเกี่ยวกับความรู้สึกของหัวใจเท่านั้น
..จึงขอชวนทิ้งท้ายว่าใครที่ชอบฟังเพลงรักโรแมนติค ปนเหงาเศร้า ไม่น่าพลาดอัลบั้มนี้ครับ

[ MV: ส่งแค่นี้ | ผูกพัน | จะได้พบกันอีกไหม | ลังเล | จะบอกกับเธอว่ารักเธอ ]
[ ฟังเพลง : Always | เพื่อนของเราชื่อความเหงา ]




ศิลปิน : 25 Hours
อัลบั้ม : 25 Hours
สังกัด : Believe Records





ศิลปิน : Ewery
อัลบั้ม : Completed Things
สังกัด : Believe Records


(ขี้โกงเลือกมา 2 อัลบั้มพร้อมกันอีกแล้วครับ 5555)

อัลบั้มเต็ม 2 ชุดแรก จากค่ายบีลีฟเรคคอร์ดส์ ค่ายเพลงที่กำลังมาแรงในระยะนี้ครับ
เห็นได้จากปริมาณคนดูหน้าเวทีในงาน FaT ครั้งล่าสุด ซึ่งถล่มทลายกว่าวงดังอื่นๆ มาก
..ผมเดาเองว่าความแรงของ 25 Hours ทำให้แกรมมี่ต้องเข็น Bottom Blues ออกมาสู้
ทั้งที่จริง แหลม สมพล นักร้องนำ ก็ศิษย์เก่าแกรมมี่แท้ๆ (อัลบั้ม Genie Showroom 2
ยังจำได้ไหมครับที่ร้องว่า "แสนดี แสนดี.. แสนดี ชีวิตนี้เป็นของเรา.. ของเรา ของเรา..")

ทั้ง 2 วงนี้เป็นวงดนตรีที่แต่งเพลงเอง และแต่งดีมากซะด้วยครับ ฟังง่ายแต่ไม่ซ้ำซาก
โดยวง Ewery จะเน้นสับกีตาร์โปร่ง สบายๆ เสียงร้องหวานเย็น กีตาร์ไฟฟ้ามีบ้างแต่ก็ไม่หนัก
เพลงเร็วรื่นรมย์ ส่วนเพลงช้าจะออกหม่นๆ ..โดยรวมไม่ซับซ้อนแต่ฟังดูดี ฟังจบแล้วอยากแต่งเพลง
อัลบั้มนี้มีครบถ้วนซิงเกิ้ลดัง จากอัลบั้มรวมต่างๆ คือ อาย, ละไม, เพราะเธอหรือเปล่า
มีเพลงที่น่าจะโดนอีก คือเพลงช้า คำอธิบาย ที่ฟังแล้วคิดถึง morningsurfers ชุดแรก
และเพลงเร็ว เริ่มใหม่ ที่แต่งโดยเมื่อย scrubb (ท่อนฮุคคล้าย see scape มากเลย)

[ MV : ละไม | อาย | คำอธิบาย | บางสิ่ง (ที่...ไป) ]

ส่วน 25 Hours จะมีความเป็นร็อกมากกว่า บรรเลงกันครบเครื่อง เสียงร้องแหลมสูงเหมือนผู้หญิง
บอกว่าเป็นร็อกแต่อย่าได้คิดไปถึงแนวโหดๆ นะครับ เรียกว่าร็อกแว่นเนิร์ด ติดกระดุมคอ ก็ละกัน
(จำได้ว่าในงาน FaT ผมมองไกลๆ แล้วงงว่าที่ร้องอยู่บนเวที คนไหนแหลม คนไหน scrubb)
วิธีแต่งเพลงและเรียบเรียงชิ้นส่วนดนตรีเท่มาก ซาวด์ลงตัวกับคอร์ดที่เลือก การบันทึกเสียงก็ดี
..เพลงดังก่อนออกอัลบั้มเต็มน่าจะเป็น วันดีดี และ ถามจันทร์
แต่ผมอยากบอกว่าในอัลบั้มนี้ยังมีเพลงดีๆ ให้ชอบได้อีกเพียบเลยล่ะคร้าบ

[ MV : วันดีดี | ถามจันทร์ | ทำได้เพียง | ในวันที่เขาต้องไป ]



ศิลปิน : จุ๋ย จุ๋ยส์ (สุทธิพงศ์ สุทินรัมย์)
อัลบั้ม : It is Never Too Late to Love
สังกัด : Sony Music


เขาเป็นมนุษย์ที่มีความสามารถสูงมากๆ คนหนึ่งครับ ทำเองทุกอย่างจริงๆ
ทั้งแต่งเพลง-ร้องเอง-เล่นดนตรีเอง ทุกชิ้นทุกเพลง รูปปกก็ยังวาดเองทุกชุดอีกต่างหาก
แล้วแต่ละเพลงนั้นก็ไม่ธรรมดาเลย ทั้งการแต่งและเรียบเรียงทำได้ดีมากครับ
..เป็นเพลงที่เน้นกีตาร์โปร่งเป็นหลัก ทั้งริธึมและโซโล่ โดยมีเบสกับกลองเข้าช่วยให้มีสีสัน
เพลงส่วนมากจะคึกคัก กะฉึกกะฉัก ฟังเพลิน แซมด้วยเพลงช้าที่ทำได้ถึงอารมณ์ไม่แพ้กัน

ตอนที่ผมได้ฟังอีพีเก่าสองชุดแรก ก็รู้สึกว่าแจ่มแล้วนะครับ
เพราะมีทั้งความสนุก มั่วๆ นัวๆ ฮาๆ แฝงสาระ แบบไม่ต้องห่วงหล่อ
(ชื่อชุด Negative Thinking But Positive Doing และ To Bahave with Abandon)
พอมาถึงอีพีชุดล่าสุดนี้ เปลี่ยนจากอินดี้มาสังกัดค่ายใหญ่ ก็ยังรักษาจุดเด่นเดิมไว้ได้ทั้งหมด
แถมยังขัดเกลาให้กลมกล่อมยิ่งขึ้น ฟังง่ายขึ้น และบันทึกเสียงดีขึ้นอีกด้วย
..ทุกวันนี้ผมหยิบมาฟังต่อเนื่องกันทั้ง 3 ชุดตลอด สุดจะเพลินเลยล่ะครับ

บทที่ 1 (Lesson One) เพลงโปรโมทที่เนื้อร้องท่อนปกติย๊าวยาว และมีจุดเด่นที่ท่อนสร้อย
"อาร์เอทีแรทหนู ซีเอทีแคทแมว บีเอทีแบทค้างคาว.." ตามด้วยมุขเล่นคำ โชว์กึ๋น
"แต่งตงแต่งตัวดีดีกันนะหนู ดื่มกงดื่มกันอย่าเอาให้แมว จะท่งจะเที่ยวก็เอาเป็นค้างคาว.."
ย้อนแยง สไตล์เพลงโปรเกสซีฟที่ชวนให้นึกถึงเพลงยากๆ ของวงดิอินโนเซ้นท์
แต่อันนี้แปลกกว่าเพราะใช้กีตาร์โปร่งบวกกับเสียงร้องหลายๆ แบบ ทำเพลงโปรเกรสซีฟ!
จอมโจรขโมยใจ เพลงรักฟังสนุกกุ๊กกิ๊ก เนื้อหามึนได้ใจไปเลย สไตล์ดนตรีก็ตามถนัด
และก็ยังคงมีท่อนดนตรีที่ทำให้นึกถึงเพลง "มือที่สาม" ของดิอินโนเซ้นท์ ได้อีกเช่นกัน

อีกไม่นาน เพลงช้าที่เพราะอย่างไม่น่าเชื่อ ว่าแค่เล่นกีตาร์และร้องคนเดียวก็ยังเอาอยู่
Anatawa มุขต่อเนื่องมาจากเพลงดังในอัลบั้มแรก "อย่าขี้โม้" ที่ร้องญี่ปุ่นแบบมั่วนิ่ม
แต่คราวนี้คำญี่ปุ่นมาเป็นชื่ออาหารจริงๆ ตามด้วยท่อนฮุค "วาตาชิ อนาถาว่ะ อนาถาจิงจิง.."
ฟังแล้วทั้งฮาปนซึ้ง เขาบอกว่าตัวเองช่างอนาถา เพราะยังต้องนั่งดินเนอร์คนเดียวลำพัง
(ในภาษาญี่ปุ่น วาตาชิ = ฉัน, อนาตาวะ = เธอ ..มุขเล่นกับภาษาในเพลงนี้เนียนดีครับ ชอบ!)
ยาสุข ก็เป็นเพลงปิดอัลบั้มที่ทำหน้าที่ได้ดีเช่นกัน สรุปแล้วทั้ง 6 เพลงแจ่มหมดเลย :P

[ MV อัลบั้มแรก : อย่าขี้โม้ | เหลือแต่ตอ ]
[ MV อัลบั้มนี้ : บทที่ 1 (Lesson One) | จอมโจรขโมยใจ | อีกไม่นาน ]



ศิลปิน : Season Five
อัลบั้ม : Seasons of Life
สังกัด : Einstein by Matching Group


Season Five เป็นวงที่มีผสมผสานระหว่างแนวบอยแบนด์เอเชีย กับการร้องอะแคปเปล่า
ในปกเห็นว่ามีสมาชิก 4 คน ซึ่งไม่น่าแปลกใจครับ เพราะวง ACappella7 ก็มีแค่ 5 คน :P

การเรียงเพลงในอัลบั้ม เปิดด้วยอินเทอร์ลูดสั้นๆ แบบร้องทำนองด้วยปากเปล่าล้วนๆ
ตามด้วยเพลงแบบมีเครื่องดนตรี 7 เพลงต่อเนื่อง โดยสอดแทรกการร้องประสานอยู่เนืองๆ
แล้วปิดท้ายอัลบั้มด้วยอะแคปเปล่า หรือการใช้เสียงร้องแทนเครื่องดนตรี 4 เพลงรวด
เป็นการเรียงเพลงที่แปลก แต่ฟังแล้วก็รู้สึกลื่นไหลดีนะครับ เผลอๆ ดีกว่าเรียงคละกันด้วย

เพลงส่วนใหญ่แต่งโดยพี่แม๊ค AC7/am:pm ซึ่งเป็นโปรดิวเซอร์ด้วย จึงโดดเด่นมากที่เพลงช้า
ไม่ว่าจะเป็น คนบ้า, แค่ตัวเลือก, ลืมเขาไม่ได้เลย, รักคนไม่มีตัวตน ฟังแล้วต้องร้องตามตลอด
ในเพลงนึงมีท่อนร้องภาษาจีนอย่างยาวด้วยครับ แปลว่าอะไรก็ไม่รู้ แต่ฟังดูอินเตอร์ขึ้นเยอะทีเดียว
(ดีนะที่ไม่ใช่ภาษาเกาหลีอย่างที่เด็กๆ ตะบี้ตะบันกรี๊ด และค่ายเพลงค่ายนึงตะบี้ตะบันก๊อปอยู่)

ส่วนเพลงจังหวะปานกลางถึงเร็ว ผมชอบจังหวะดิสโก้ๆ ของ One Way Love
เมโลดี้ของ ไม่เปลี่ยนใจ และความเป็นฟังกี้แบบอินเตอร์ของ I Will Never Go ครับ
ส่วนบรรยากาศของเพลง สีสัน of life และ Everyday is Sunday ก็ทำได้ดีทีเดียว
..สรุปแล้วนี่ก็เป็นอีกอัลบั้มที่ฟังซ้ำได้เรื่อยๆ โดยเฉพาะวันที่อยากฟังเพลงสบายๆ ครับ

ป.ล. อัลบั้มนี้มีเพลงคัฟเวอร์จากคนอื่น 1 เพลง คือ เจ้าหญิง (บอย โกสิยพงษ์)
แต่ผมชอบเพลง เสียดาย (เบิร์ด ธงไชย) ของวงนี้ในอัลบั้มสนามหลวงคอนเนคท์ มากกว่า
(และจะว่าเป็นเพลงที่จ๊าบที่สุดของซีดีแผ่นนั้นเลยก็ยังได้)

[ MV : แค่ตัวเลือก | รักคนไม่มีตัวตน | Everyday is Sunday ]
[ ฟังเพลง : ไม่เปลี่ยนใจ ]



ศิลปิน : มิ้น, ป๋อง, โอ๋,
            Soul-Da, The Zebras
อัลบั้ม : Greenlight Project 2
สังกัด : WerkGang / GMM


ยังจำได้ไหมครับ ผมเคยโปรดปรานอัลบั้ม Greenlight Project จากค่ายกรีนบีนส์ (GMM)
ซึ่งเป็นอัลบั้มแนะนำตัวศิลปินหน้าใหม่ 5 วง วงละ 2 เพลง รวมเป็น 10 เพลง
แต่ละเพลงล้วนเป็นเพลงป๊อปที่แต่งคำร้องทำนองดี ดนตรีเนียน และแอบแนวนิดๆ
วงที่โด่งดังจากชุดนั้นคือ Peacemaker ซึ่งเป็นอดีตไปแล้ว (เพลง คิดถึง, อย่าคิดเลย)
และวงที่พอจะมีคนรู้จักเพิ่มขึ้นบ้างคือ บางกอกจิ๊กกะโล่ (เพลง เธอน่ารัก, บอกฉันบอกเธอ)

ครั้งนี้มาในชื่อค่ายใหม่คือ WerkGang ซึ่งทำเพลงป๊อปใสๆ เนียนๆ ได้อย่างมีสไตล์เฉพาะตัว
แถมยังได้นักร้องเสียงดี (+หน้าตาดี) เยอะ ที่ผมปลื้มเป็นพิเศษก็คือ มิ้น กับ แพรวคูณสาม :P

อัลบั้ม Greenlight Project ชุดที่สองนี้ เว้นห่างจากชุดแรกถึง 6 ปี แต่ก็ยังคงคอนเซปต์เดิม
ทีมงานเบื้องหลังก็ยังคงเดิม แต่สิ่งที่ต่างไปคือคราวนี้เป็นนักร้องเดี่ยว 3 คน และวงดนตรี 2 วง
เพลงยังคงแต่งคำร้องทำนองดีเช่นเคย ส่วนเสียงดนตรีที่ได้ยินจะเนียนนุ่มขึ้นกว่าเดิมครับ
โดยรวมจะมีสไตล์ออกไปทางโซลๆ ตลอดทั้งอัลบั้ม (ไม่เกี่ยวกับเกาหลีแต่อย่างใดเด้อ..)

เปิดอัลบั้มด้วย มิ้น สวรรยา คนนี้หน้าไม่ใหม่เพราะออกอัลบั้มมาแล้ว 3 ชุด ในแนวต่างๆ กันไป
แถมยังมีซิงเกิ้ลตามมาอีกหลายเพลง (ที่ดังๆ เลยก็คือ "สักวันคงเจอ" เพลงเก่าจากวงนูโว)
มาอัลบั้มนี้มี 2 เพลงใหม่ ฟังไปชอบไป โดยเฉพาะเพลงช้า Wish ที่มีเมโลดี้สวยๆ

ป๋อง ศรัณย์ เป็นใครมาจากไหนไม่รู้ ที่รู้จากในรูปคือเป็นชายหนุ่มวัยรุ่นหน้าตาดีคนหนึ่ง
เพลงของป๋องเป็นเพลงช้าทั้งสองเพลง ผิดจากคนอื่นที่มีเพลงเร็วและช้าอย่างละ 1 เพลง
ตัวเพลงและการร้องนี่ดีเลยครับ.. หายากนะครับที่ผมจะชอบเพลงจากหนุ่มหน้าตาดีได้ :P

ตามมาด้วย โอ๋ หทัยรัตน์ อดีตสมาชิกวงโจอี้บอย, สไตรีนจังเกิ้ล, และล่าสุด ฟูตอง
ตอนนี้มาเป็นศิลปินเดี่ยวเรียบร้อยแล้ว แนวเพลงโดดจากคนอื่นอยู่พอควร โดยเฉพาะเพลงเร็ว
มันช่างเปรี้ยว แก่น เซี้ยว และแอบดุ อะไรเช่นนี้ (คงเพราะมีทีมงานเบื้องหลังที่ต่างจากคนอื่น)
แต่พอมาถึงเพลงจังหวะช้า หนึบๆ โยกๆ เพลงรัก ก็ทำให้ผมเคลิ้มตามไปได้เลยทีเดียว

เดี่ยวไปแล้วสาม ก็ถึงคิววงดนตรีเต็มๆ อีกสองวง ได้แก่ Soul-Da และ The Zebras
Soul-Da คือวงของเก็ต-แก๊งค์ สองหนุ่มจากคูณสามซูเปอร์แก๊งค์ พร้อมเพื่อนอีก 3 คน
(อย่างงี้ที่ผมเคยอ่านข่าวว่าวงคูณสามฯ มีโอกาสได้รวมตัวกันอีกนั้น ก็พอมีแววอยู่สิเนี่ย)
ส่วน The Zebras ไม่เคยรู้จักมาก่อน ข้อมูลที่พอจะเดาได้คือวงนี้อาวุโสสุด (ดูจากรูปครับ)
สองวงนี้ก็เป็นวงที่เล่นได้เนียนนุ่มตามเกณฑ์มาตรฐานวงไทยในยุคนี้นั่นแหละครับ
แต่ทำไมผมถึงให้เป็นอัลบั้มโปรดได้ ก็เพราะเฉือนคนอื่นที่สไตล์การแต่งเพลงนั่นเอง

ข้อติอย่างเดียวของอัลบั้มนี้คือ เพลงที่ผมชอบเป็นพิเศษ ตามที่เอ่ยชื่อไปแล้วนั้น
เสียงร้องจะ delay เหลื่อมช้ากว่าจังหวะดนตรีอยู่หน่อยนึงตลอดทั้งเพลง ฟังแล้วทะแม่งๆ พิกล
(คงไม่ใช่วิธีการมิกซ์แบบใหม่ที่ผมไม่เคยได้ยินมาก่อนแน่นอนล่ะครับ อิๆๆ)

เอ้าสรุป.. ใครชอบเพลงป๊อปกลมกล่อมๆ เสียงร้องเพราะๆ แต่ว่าขี้เบื่อ ต้องฟังอัลบั้มนี้ครับ
ผลัดกันร้อง 2 เพลง รับรองว่ายังไม่ทันเบื่อก็จบชุดซะก่อน จนต้องกดฟังซ้ำอีกเที่ยวกันเลยล่ะ

ป.ล. ข้อสังเกตแถมท้าย คอร์ดของเพลงในอัลบั้มนี้ ใช้มุข 5m-1-4 เยอะมากครับ
นับดูแล้วได้ถึง 5 เพลง ไม่รู้นัดกันหรือเปล่า กลายเป็นมุขประจำตัวของค่ายนี้ไปโดยปริยาย - -"

[ MV : ฉันคิดอย่างนั้น (มิ้น) | Wish (มิ้น) | ย้ำคิดย้ำจำ (ป๋อง) | ฆ่าตัวตาย (โอ๋)
        ขอบคุณน้ำตา (Soul-Da) | เบาๆ หน่อย (The Zebras) | จบแล้ว (The Zebras) ]



อย่าลืมติดตามตอนต่อไปในปีหน้าก๊าบ.. แต่เดือนไหนไม่รู้นะ
ที่แน่ๆ ตอนนี้ผ่านไป 7 เดือนแล้ว ยังแทบจะไม่เห็นอัลบั้มไหนเข้าตาเลย
วงการเพลงไทยซบเซาจริงจังแล้วล่ะครับ คนที่ทำเพลงดีแบบที่ผมชอบเค้าเลิกทำกันแล้ว!


ป.ล. อัลบั้มในปี 2552 ที่จัดว่าชอบยังมีอีกหลายอัลบั้มครับ.. TMT Love Talks ก็ฟังเพลินดี
The Begins, เล็ก ทีโบน (ความสุขเล็กๆ) สองอัลบั้มนี้ติดขัดแค่มาสเตอร์ไม่แจ่มเท่านั้นเอง
(อันแรกทุ้มๆ อู้ๆ ไปนิดนึง ส่วนอันหลังทำมาโคตรดังจนแตกพร่า ฟังแล้วขัดใจเหลือเกินครับ!)
และเฉลียง 3 ฝ่าย ก็ชอบครับ เพียงแต่ไม่ใช่อัลบั้มที่จะหยิบมาฟังบ่อยๆ เพื่อการพักผ่อนได้
นวย 27/07/2010 00:46 
สามารถใส่ html tag โดยใช้เครื่องหมาย { } แทน < >      
ความเห็น : 
จาก : : รหัส
(อีเมล/เว็บไซต์) : อัพโหลดรูป/ไฟล์
ถ้าไม่มีรหัสประจำตัว กรุณาใส่ "เลขหนึ่งสี่ตัว" ด้วยครับ